8 สัญญาณ ที่บอกว่า คุณไม่เหมาะ ที่จะใช้ iPhone
สำหรับสาวกแอนดรอยด์นั้น อาจจะไม่ค่อยตื่นเต้นกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นของทางฝั่ง Apple iPhoneมากนัก เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่สามารถใช้งานบนแอนดรอยด์ได้อยู่แล้ว แน่นอนว่า iOS นั้นเป็นระบบปิด ซึ่งผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้ตามที่ทาง Apple กำหนดไว้ ยกเว้นว่าคุณต้องการจะ Jailbreak แต่อย่างไรก็ดี
สำหรับทางฝั่งของแอนดรอยด์นั้น เป็นระบบเปิด และ ไม่ถูกจำกัดในด้านการใช้งาน ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้ใช้ iPhone อยู่ตอนนี้ และ มีสัญญาณ 8 ข้อที่กำลังจะกล่าวถึงเกิดขึ้นในชีวิตคุณ นั่นอาจหมายความว่า คุณไม่เหมาะกับ iPhone อีกต่อไป และไม่แน่ว่า คุณอาจจะเหมาะกับ Android หรือไม่ก็ Windows Phone เสียมากกว่าก็เป็นได้ ลองมาดูกันว่า สัญญาณ 8 ข้อที่กำลังจะกล่าวถึงนั้น มีอะไรบ้าง
คุณตื่นเต้นกับ Keyboard, App แบบ 3rd Party บน iOS8
ล่าสุด Apple ได้มีการเปิดให้นักพัฒนา สามารถเพิ่ม คีย์บอร์ดแบบ 3rd Party หรือคีย์บอร์ดที่พัฒนาโดย นักพัฒนารายอื่นๆ ที่ไม่ใช่จากแอปเปิ้ลโดยตรง ซึ่งนอกเหนือจากคีย์บอร์ดแล้ว ยังมี Widgets แบบ 3rd Party ที่ผู้ใช้ iPhone จะสามารถเพิ่มได้ในหน้า Notification ซึ่งถ้าคุณตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ไม่แน่ คุณอาจจะเหมาะกับ Android เพราะ Android สามารถเพิ่ม Widgets ได้บน HomeScreen โดยตรง อีกทั้งยังมีคีย์บอร์ดแบบ 3rd Party มากมายหลายแบบที่รอให้คุณเลือกใช้งาน
คุณชอบไอเดีย การขาย iPhone 5C/5S และ ตื่นเต้นกับขนาดหน้าจอที่หลากหลายขึ้นบน iPhone 6
หลังจากที่ iPhone 5C ได้เปิดตัว สาวก Apple หลายคนต่างชื่นชอบไอเดียที่ทาง Apple เริ่มมีการขยายรูปแบบของดีไซน์ ให้เลือกหลากหลายมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น iPhone 6 ที่กำลังจะเปิดตัว ก็คาดว่าจะมีหน้าจอให้เลือกใช้ถึง 2 แบบ คือ 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว แน่นอนว่า ถ้าคุณตื่นเต้นกับเรื่องนี้ คุณจะพบว่า ทางฝั่งแอนดรอยด์ หรือแม้แต่ Windows Phone ก็ตาม ต่างก็มีขนาดหน้าจอให้เลือกมากมายกว่า iPhone อย่างเห็นได้ชัด
คุณคาดหวังให้ Siri ทำงานได้ดีขึ้น และ กำลังรอคำสั่งใหม่อย่าง Hey Siri บน iOS 8
สำหรับคำสั่ง Hey Siri บน iOS 8 นั้นเป็นคำสั่งที่คุณจะสามารถเปิดการใช้งาน Siri ได้โดยไม่ต้องแตะต้อง iPhone ของคุณเลย อย่างไรก็ดี สมาร์ทโฟน Android หลายรุ่นได้เพิ่มการเรียกใช้ Google Now อย่างง่ายดายด้วยคำสั่งที่คล้าย Hey Siri มานานพอสมควรแล้ว และถึงแม้ว่า Siri จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ Google Now ก็เช่นกัน Google Now นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของการเก็บข้อมูลบริการที่เกี่ยวข้องกับ Google เช่น คุณจอดรถไว้ที่ไหน เป็นต้น ถ้าคุณกำลังรอที่จะใช้คำสั่ง Hey Siri อยู่ตอนนี้ ก็คงต้องรอต่อไปอีกหลายเดือน ในขณะที่ Android สามารถทำได้แล้ว
คุณอยากใช้สายชาร์จ และ ซิงค์ แบบเดียวกับ อุปกรณ์อื่นๆ ของคุณเช่น กล้อง และ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่นๆ
Apple นั้นเลือกที่จะใช้สายแบบ Lightning ในการเชื่อมต่อระหว่าง iPhone และ คอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าหากคุณต้องพกพาอุปกรณ์อื่นๆ ไปด้วยเช่น กล้องถ่ายรูป หรืออุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์อื่นๆ คุณอาจจำเป็นที่จะต้องพกสายถึง 2 เส้น ในขณะที่หากคุณใช้ Android หรือ Windows Phone คุณสามารถพกสายเพียงเส้นเดียว เพื่อใช้งานร่วมกันได้
คุณหวังว่า Lockscreen ของคุณจะทำอะไรได้มากกว่านี้
บนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ คุณสามารถตั้งค่าหน้า Lockscreen ได้อย่างหลากหลาย คุณอาจจะเพิ่ม ไอคอนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หรือแม้แต่ 3rd party Lockscreen ที่มีให้คุณเลือกปรับแต่งได้มากมาย ในขณะที่ทางฝั่ง iPhone นั้น คุณสามารถทำได้เพียงแค่ปลดล็อค และ มีทางลัดเข้าสู่การใช้งานกล้องเท่านั้น
คุณใช้งาน Google Service ตลอดเวลา
Google Service ที่ว่านั้น ก็ตั้งแต่ Google Maps, Google Search, Google Chrome ไปจนถึงการรับชมคลิปวีดีโอ ผ่าน Youtube ถ้าคุณชื่นชอบการใช้งานบริการเหล่านี้ คุณน่าจะเลือกใช้สมาร์ทโฟนจากผู้พัฒนาบริการดังกล่าวโดยตรง น่าจะดีกว่า เนื่องจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ บน Google Service นั้นถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายมากกว่า เมื่อใช้งานบนสมาร์ทโฟน Android โดยตรง
คุณอยาก Jailbreak เพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น
หากคุณต้องการเข้าถึง iPhone ได้มากขึ้นเช่นการใช้งาน File Manager ได้ครบทุกฟังก์ชั่น การปรับแต่ง หรือลงแอพพลิเคชั่น 3rd Party บน iPhone คุณจะต้องทำการ Jailbreak เสียก่อน อย่างไรก็ดี ในบางครั้ง ระบบปฏิบัติการ Android ที่ไม่ได้ทำการ Root (เช่นเดียวกับการ Jailbreak บน iPhone) อาจจะทำงานได้หลากหลายกว่า iPhone ที่ Jailbreak แล้วเสียอีก และที่สำคัญ เมื่อมีการอัพเดต iOS เวอร์ชั่นใหม่ คุณก็จะต้องรอจนกว่าจะสามารถ Jailbreak ได้สำเร็จ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
คุณผิดหวังทุกครั้งที่มีการเปิดตัว และคุณอย่างได้สมาร์ทโฟนที่ถูกใจคุณมากกว่านี้
สุดท้าย เมื่อนับรวบกับทุกข้อที่ผ่านมาแล้วคุณพบว่า พอ iPhone เปิดตัวแล้ว คุณยังรู้สึกว่ามันยังไม่ถูกใจ มันควรจะมี ฟีเจอร์ที่มากกว่านี้ หรือสเปคที่ดีกว่านี้ นั่นอาจจะหมายความว่า มันถึงเวลาแล้วที่คุณอาจจะลองมองสมาร์ทโฟนของทางฝั่ง Android ดูบ้าง และมันอาจจะถูกใจคุณมากกว่านี้ก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี คุณอาจเสียบางอย่างไป เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Android
หากถามว่าคุณต้องเสียอะไรไปบ้าง เมื่อเปลี่ยนไปใช้แอนดรอยด์ แน่นอน แอพพลิเคชั่นที่มีอยู่บน iOS มักจะนำหน้า Android ไปก่อนเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนเสมอ แอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้รับการอัพเดตที่เร็วกว่าบน Android และคุณอาจได้พบเจอกับ ไวรัสหรือแอพพลิเคชั่นที่ไม่ปลอดภัยเมื่อคุณติดตั้งแอพพลิเคชั่นจากแหล่งที่ ไม่น่าเชื่อถือ แต่อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงแค่ข้อเสนอแนะในเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณลองเปิดใจมองสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์บ้าง คุณอาจจะเจอสิ่งที่ถูกใจกว่านี้ก็เป็นได้
Comments
Powered by Facebook Comments