“ครั้งเจ้าใหญ่อย่างแอปเปิลลงมาเล่นในตลาด ยิ่งทำให้การแข่งขันของสินค้าจำพวกนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันแบรนด์ใหญ่ยังไม่ได้ลงมาแท้จริงจัง เชื่อว่าในอนาคตยิ่งได้รับความนิยมเพราะว่าแสดงให้เห็นถึงความทันยุคของผู้สวมใส่ และตอบโจทย์เรื่องการดูแลสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์”
ปัจจุบัน สัดส่วนของอุปกรณ์ชั้นสวมใส่มีรายได้คิดเป็นหมาย 10% ของตลาดสมาร์ทโฟน แม้มูลค่าไม่มาก แต่เติบโตสูงขึ้นทุกเดือน ยิ่งปลายไตรมาส 4 จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายดุสิต สุขุมวิทยา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ.เจมาร์ท กล่าวว่า ตลาดยังไม่ตอบรับดีไวซ์พรรค์สวมใส่มากนัก เนื่องแต่ยังมีสนนราคาแพงกับรูปลักษณ์ยังไม่โดดเด่นโดนใจผู้บริโภคเท่าไร แม้ “แอปเปิลวอทช์” จะออกมาแล้ว เหมือนกรณีไอโฟน รุ่น 5c ที่คนผิดหวังเพราะว่าค่าไม่ถูกอย่างคิด ผลตอบรับจึงไม่ดีนัก ด้วยกันสุดท้ายก็ขายไม่ได้ตามเป้าหมายเท่าไร ส่วนอุปกรณ์อย่างสวมใส่ขายได้เฉพาะกลุ่มที่สนใจกับมีความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น นักปั่นจักรยาน, นักกีฬา
“แม้สนนราคา Wearable Device จักมีราคาอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท ถือว่าไม่แพงแต่ยังไม่ตอบสนองผู้บริโภคส่วนใหญ่ ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าสินค้าเหล่านี้ยังไม่มีความจำเป็นนัก การวางค่าจึงสำคัญมาก ต่างว่าต้องการขายได้มาก ๆ แวริเอเบิลของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็นซัมซุงกาแลคซี่ เกียร์ฟิต, กาแลคซี่เกียร์ 2 ที่วางขายอยู่ก็ไม่ได้ขายดีมากนักปางเทียบกับอุปกรณ์เสริมอื่น อย่างพาวเวอร์แบงก์ที่ขายได้เรื่อย ๆ เหรอหูฟังบลูทูธที่ขายดี”
แต่ถ้าเจ้าใหญ่มีการโปรโมต และรุกตลาดอย่างแน่ๆจัง จึงเชื่อว่าตลาดจักเติบโตได้มากขึ้น ด้วยความหลากหลายทั้งในแง่สินค้า กับการแข่งขันจากปัจจุบันที่มีแค่อุปกรณ์เฉพาะกลุ่ม
“สินค้าตระกูลวอตช์ทั้งหลายยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เราจึงนำเข้ามาขายแค่แบรนด์ซัมซุงเท่านั้น และมีลูกค้ามาซื้อเฉพาะกลุ่ม แต่ในอนาคต จนถึงมีแอปเปิลวอทช์เข้ามาก็มีโอกาสที่อุปกรณ์กลุ่มนี้จักได้รับความนิยมมากขึ้น รวมทั้งค่าอาจถูกลงกว่าในปัจจุบัน”
ด้าน นายเสถียร บุญมานันท์ ประธานกรรมการ บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์สวมใส่ภายใต้แบรนด์ “รันทาสติก” (Runtastic) กล่าวว่า กระแสดีไวซ์ระดับสวมใส่ดีขึ้นต่อเนื่อง 4-5 เดือนที่ตัดผ่านมา ยอดขายเติบโตขึ้น 100% จากการพัฒนาแอปพลิเคชั่น
รองรับการใช้งานได้มากขึ้น ด้วยกันผู้ใช้ตั้งต้นรู้จักสินค้าฝ่ายนี้มากขึ้น ตามเทรนด์เทคโนโลยี รวมทั้งการใส่ใจเรื่องสุขภาพ คาดว่าการโหมโรงของแอปเปิลวอทช์จักทำให้อุปกรณ์ชั้นนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก
จากการสำรวจของบริษัทเองตั้งแต่ต้นปี ตลาดอุปกรณ์สวมใส่เติบโตขึ้นกว่า 300% โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ คาดว่าในไตรมาส 4 จะยิ่งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งคาดว่าแอปเปิลวอทช์จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยต้นปีหน้าทำให้ทิศทางของ อุปกรณ์จำพวกนี้ชัดเจนขึ้น พร้อมกับเริ่มทำกลายเป็นอุปกรณ์ไอทีที่เข้าถึงได้ทั่วไปคล้ายโทรศัพท์มือถือกับคอมพิวเตอร์
แน่นอนว่าทำให้การแข่งขันเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นผลดีต่อการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิม เป็นที่รู้จักในวงการเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ พร้อมทั้งกลุ่มที่ชื่นชอบแก็ดเจตต่าง ๆ
เหตุด้วย “รันทาสติก” ยังถือว่าไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ยอดขาย กับการรับรู้ของแบรนด์ เพราะว่ามีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพที่มีกำลังซื้อ แต่ในภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีจากการเข้าสู่ตลาดของแอปเปิลวอทช์ในปีหน้าจักทำให้ ตลาดคึกคักขึ้นแน่นอน
“การเข้ามาทำตลาดของแอปเปิลจักทำให้ตลาดคึกคัก ขึ้นทำให้ Wearable เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ของเราเองก็เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังมาแรง แต่ปีหน้าจะคึกคักแน่นอนด้วยกันจักเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ครั้งนี้ตามร้านไอสตูดิโอขึ้นต้นมีการสอบถามมากขึ้น เชื่อว่าทิศทางตลาดนั้นสมรรถไปได้ดี“
Comments
Powered by Facebook Comments