Red Fight ประวัติบุคคลศาสตร์สงครามลูกหนังแดงเดือดแห่งเกาะอังกฤษ

 

 

ถ้าจักวิเคราะห์บอลอื้นถึงความเป็นปฏิปักษ์กันระหว่าง เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ กลุ่มลิเวอร์พูล ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วในวงการฟุตบอลว่านี่คือหนึ่งในคู่ปรับที่มีประวัติส่วนตัวศาสตร์สืบเนื่องมาอย่างยาวนานร่วม ร้อยปี

 

 

ถึงแม้จักใช้สีเดียวกันเป็นสีปกติสโมสรก็ตาม แต่เป็นแดงคนละเฉด แดงคนละความหมายศาล

 

 

ซึ่งราวกับว่าทั้งสองพวกนี้เกิดมาเพื่อแข่งขัน ประชัน พร้อมกับชิงชังซึ่งกันด้วยกันกันตลอดเวลาก็ว่าได้

 

 

ซึ่งถ้าจักหลักฐานตามเรื่องราวลูกหนัง ของทั้งสองเหล่า ที่ผูกด้ายแดงแห่งโชคชะตาเอาไว้ตั้งแต่คราวที่ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังใช้ชื่อเดิมว่า นิวตัน ฮีธ ด้วยกัน พวกลิเวอร์พูล เพิ่งแยกตัวจาก เหล่าเอฟเวอร์ตัน มาก่อตั้งสโมสรใหม่ เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นตราบวันที่ 28 เดือนที่ 4 ปี 1894 คณะลิเวอร์พูล เอาชนะ ฝ่ายนิวตัน ฮีธ ไปได้ 2 – 0

 

 

1.แมนฯ ยูไนเต็ด ถ่ายไว้ขณะปี 1910

หลังจากนั้นในปี 1910 พวกนิวตัน ฮีธ ซึ่งได้ดัดแปลงชื่อมาเป็น หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงรับมือกับ คณะลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรกที่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะว่าเกมนี้ถูกบันทึกว่าเป็นจุดริเริ่มต้นดุจเป็นทางการของความขัดแย้งระหว่างทั้งสองกรุ๊ป

 

 

เพราะที่ในกาลนั้น กรุ๊ปลิเวอร์พูล ยังเป็นฝ่ายที่เอาชนะไปได้ 4 – 3

 

 

แต่ถ้าว่าว่าอย่างไรก็ดีในตอนนั้น งานขับเคี่ยวระหว่างสองที่พักผ่อนยังไม่รุนแรงมากนัก แต่ในหมู่ชาวเมือง แมนคูเนียน ด้วยกัน เมืองลิเวอร์พัดเลียน นั้นมีความไม่ถูกกันอยู่ อันเป็นข้อยุติสืบเนื่องตั้งแต่ช่วงเวลาปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะเดิม เมืองแมนเชสเตอร์ เป็นบูรีที่ขึ้นชื่อในกถาของสิ่งทอ ขณะที่ เมืองลิเวอร์พูล เป็นตัวเมืองท่าสำคัญของเมืองประเทศอังกฤษ

 

 

 

2.บิลล์ แชงค์ลี่ย์ กับ บูธรูม ถ่ายไว้ครั้นปี 1960

แค่แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปครั้นเมื่อมีการขุดคลองที่ เมืองแมนเชสเตอร์ ทำให้เรือต่างๆ ได้ขนย้ายจากการเทียบท่าที่ เมืองลิเวอร์พูล มาเทียบเคียงท่าที่ เมืองแมนเชสเตอร์แทน ด้วยกันทำให้ เมืองลิเวอร์พูล ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย

 

 

ซึ่งการขับเคี่ยวเพื่อการเป็น สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ได้เริ่มต้นรุนแรงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 70 ปางกรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในการเป็นสโมสรอังกฤษแห่งแรกที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ได้ ในปี 1968

 

 

แต่ว่าหลังจากนั้น เมืองลิเวอร์พูล ได้ผงาดขึ้นมาผูกขาดความเป็นการอย่างต่อเนื่องในยุคเรืองรองสืบดังที่ บิลล์ แชงคลีย์ จนถึงกาลสมัยของ เคนนี่ ดัลกลิช เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ

 

 

พร้อมกับก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เป็นใหญ่บุรุษจากสกอตแลนด์ จักพลิกชะตาที่ตกต่ำของเหล่าอสูรแดง ให้กลับมาเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลระดับโลก จนแซงหน้า ทีมลิเวอร์พูล ในทุกด้านใน 2 ทศวรรษที่พ้นมา

 

 

ซึ่งความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคือการพากลุ่มคว้าแชมป์ลีกแซงหน้า กลุ่มหงส์แดง ที่เคยครองอันดับหนึ่งด้วยการ

  1. คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 แบบเดิม 18 สมัย
  2. คว้าแชมป์ลีกระยะเวลาที่ 19
  3. ปัจจุบันกาลสมัยที่ 20

 

 

ทำให้ทีคมลิเวอร์พูล ต้องชูเรื่องความสำเร็จในเวทียุโรปกับสถิติการเป็นพวกจากอังกฤษที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ รุนแรงที่สุด 5 สมัยแทน

 

 

 

3.ฝ่ายนึงเป็นแชมป์ยุโรป 5 สมัย ด้วยกันอีกฝ่ายเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 20 ครั้ง

ก็จะเห็นได้ว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองสโมสรนั้นสืบเกี่ยวกันมาช้านานแล้ว พร้อมด้วยรายละเอียดที่นำเสนอนั้นเป็นเช่นแค่เพราะสังเขปเท่านั้น

 

 

และถึงแม้ว่าสถานการณ์ในยามนี้ของทั้งสองสโมสรจะตกต่ำลงจากอดีตอยู่บ้าง เพราะเฉพาะ หมู่ลิเวอร์พูล ที่ย่ำแย่อย่างน่าใจหายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่ ฝ่ายยูไนเต็ด ยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับสู่ความสำเร็จ

 

 

และก็ใช่ว่าความน่าสนใจของการพบกันระหว่างทั้งสองฝ่ายจะลดน้อยถอยลงไป

 

 

เพราะว่าขึ้นชื่อว่าศึก เรด ไฟท์

 

 

ก็ย่อมไม่เคยมีใครยอมใครอยู่แล้ว

 

 

=============

 

ศึก Red Fight ในตำนาน
ปี 1977 – นัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ

 

ด้วยว่าทั้งสองพวกพบกันครั้งแรกในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย โดยเวลานั้น ฝ่ายลิเวอร์พูล หวังคว้า ถ้วยเทรเบิลแชมป์ เพราะได้แชมป์ลีกแล้ว รอคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ แม้ชนะ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยจ่อเข้าชิง ศึกยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งแรกกับ กลุ่มโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ด้วย

 

 

แต่ว่า สจ๊วร์ต เพียร์สัน ด้วยกัน จิมมี่ กรีนฮอฟฟ์ ได้ดับฝันหงส์แดง ด้วยชัยชนะ 2 – 1 ของเหล่ากลุ่มปีศาจแดง

 

 

ปี 1983 นัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ

 

ฝ่ายลิเวอร์พูล ได้ล้างแค้นได้สำเร็จในอีก 6 ปีต่อมา ขณะเอาชนะ พวกแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 2 – 1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ จากประตูของอลัน เคนเนดี้ พร้อมทั้งรอนนี่ วีแลน แม้ว่า นอร์แมน ไวท์ไซด์ จะยิงนำให้เหล่ายูไนเต็ดได้ก่อนก็ตาม

 

 

นั่นทำให้หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก คัพ เป็นระยะเวลาที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยกันเป็น โทรฟี่ใบสุดท้ายของบ็อบ เพสลีย์ ก่อนจะอำลาวงการ ส่งทะลุทะลวงงานต่อให้โจ เฟนแกน ศิษย์ บูทรูม รุ่นถัดไปรับช่วงต่อ

 

 

 

กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นกำลังอยู่ในช่วงเปิดม่านบังตาของยุคทอง กับเป็นฝ่ายออกนำไปแบบสบายๆ 3 – 0 ที่แอนฟิลด์จากประตูของ 1.สตีฟ บรู๊ซ, 2.ไรอัน กิ๊กส์ พร้อมทั้ง 3.เดนิส เออร์วิน แต่ ทีมลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของแกรม ซูเนสส์ ไม่ยอมแพ้ไล่ตีเสมอได้แบบปาฏิหารย์ จาก 2 ประตูของ ไนเจล คลัฟ พร้อมด้วยนีล รัดด็อก ก่อนที่จักเสมอกัน 3-3 เป็นเกมช่วงท้ายๆ ก่อนซูเนสส์จะโดนปลดจากตำแหน่ง

 

 

ศึกแดงเดือดที่แสนเงียบเหงา

 

 

ก็ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า ว่าทำไมฟุตบอลแดงเดือดฤดูกาลนี้ ในนัดแรกทำไมมันดูเงียบๆ ชอบกล ทั้งๆ ที่ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ กรุ๊ปลิเวอร์พูล ที่ทั้งสองกรุ๊ปคือกลุ่มของมหาชนชาวสยาม ที่มีแฟนบอลมากที่สุดหมู่นึง

 

 

และถ้าเป็นช่วงหลายๆ ปีที่ทะลุมา เวลามีบอลคู่นี้ทีไร มักจักมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้แฟนบอลไปร่วมสนุกกับนั่งรับชมการถ่ายทอดสดทางทีวีจอยักษ์ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งก็จักมีทั้ง สาวกอสูรแดง กับ สาวกชาวเดอะค็อป ชวนเพื่อน แฟนเหรอครอบครัวไปร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง

 

 

ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่แค่ที่เดียว แต่มีหลายที่ที่จัดกิจกรรมแบบนี้รวมทั้งมีการแสดงหรือว่าพากย์บอลสดๆ จากกูรูนักพากย์ชื่อดัง ไม่นับรวมสวนอาหารใหญ่ๆ ตามชานเมืองที่จ้องแย่งตัวนักพากย์ดังๆ มาสร้างความบันเทิงเริงรมย์ให้กับคอบอลทั้งหลาย

 

 

 

เพราะที่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นพราะตั้งแต่ต้นฤดูกาล ผลงานของทั้งคู่ ไม่ได้สร้างความประทับใจสักเท่าไหร่ ขึ้นต้นจากขุนพลปิศาจแดงที่ออกสตาร์ตแย่ที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงเดือนพฤศจิกายน โค้ชหลุยส์ ฟาน ฮัล พาลูกคณะเก็บชัยชนะได้แค่ 3 เกมเท่านั้น ก่อนที่จักมาดีขึ้นภายหลังนั้นด้วยชัยชนะ 6 เกมติด

 

 

ในขณะที่ทัพ กลุ่มหงส์แดงของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา เดือนสิงหาคม รวมทุกรายการปราชัยไปถึง 9 นัด พร้อมทั้งเพิ่งสดๆ ร้อนๆ ที่เพิ่งตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกต่างสมมติ แถมผลงานในลีกก็อยู่กลางตารางจนมีสื่อพร้อมใจกันเล่นข่าวว่า บีร็อด นั้นอาจจักถูกปลดในเร็ววัน ยิ่งถ้าจำนนในแดงเดือดนัดนี้อีกไม่ตะกลามจะคิดสภาพแท้จริง ๆ

 

 

พร้อมทั้งนอกจากนั้น ในแดงเดือดครั้งนี้บรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนบอลก็หายไปอื้อ อย่าง ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เท่าไหร่ ไม่มี พี่ด็อบบี้ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บอยู่พ่างคนเดียว

 

 

พ่างแต่ว่าทางด้าน ฝ่ายลิเวอร์พูล ไม่มี หม่อมเหยิน หลุยส์ ซัวเรซ ที่ขายให้ ทีมบาร์ซ่าไปแล้ว ซึ่งแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่กำลังบาดเจ็บ ไม่ใช่หรือแม้กระทั่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เองก็โรยราไปตามวัย ไม่ร้อนแรงเหมือนกาลสมัยหนุ่ม ๆ

 

 

ซึ่งยิ่งตัวที่เหลือเลื่องอยู่อย่าง เกรียนโอ้ นั้นทำให้แฟนหงส์พันธุ์ไทยทุกคนคงพูดได้เต็มปากว่า ไม่มีใครอยากได้ดูเกรียนโอ้เล่นบอลขนาดนั้นหรอก บวกกับผลงานในสนามที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขี้เกียจอีกต่างสมมุติ นี้แหละคือความหมายของการนำเงิน 16 ล้านปอนด์ ไปละลายแม่น้ำเล่น

 

 

ด้วยกันอีกประเด็นที่มองว่าน่าโปรแกรมบอลจักทำให้แดงเดือดคราวนี้เงียบเหงาเป็นเป่าสากซะเหลือเลื่องเกิน คงหนีไม่พ้นเรื่องของสภาพเศรษฐกิจที่ต้องยอมรับว่า ยุคนี้ข้าวของแพง ไม่ค่อยมีเอกชนหรือหน่วยงานไหน รวมถึงคนทั่วไปใคร่จักทุ่มงบราวๆมาจัดอีเวนต์ที่เปรียบเสมือนการทุ่มเงินหลักล้านในคืนเดียวหรอก เก็บเงินไว้เที่ยวช่วงปีใหม่เลยทีเดียวจักดีกว่า

 

 

พร้อมกับ ข้อสรุปง่ายๆ ของไฮไลท์ฟุตบอลแดงเดือดที่จักแข่งคือ นั่งดูฟุตบอลนัดนี้อยู่บ้านคนเดียวดีกว่า เพราะว่าหลายครั้งที่หลายคนมักจักเโจษกไปดูบอลบิ๊กแมตช์ตามที่ต่างๆ กับเพื่อนสนิทมิตรสหาย แต่ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งดูฟุตบอลคู่นี้คนเดียวในห้อง ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ ของว่างมานั่งกิน

 

 

นั้นอาจจะทำให้ได้ชมฟุตบอลในแบบที่ต่างออกไป มีสมาธิในการดูมากขึ้น จักเห็นมิติต่างๆ ของทั้งสองหมู่ในแง่แท็กติกกับการวางขนบของผู้จัดการคณะ นอกจากฝีเท้าของนักเตะ

 

 

แต่พอบอลจบก็ได้เตรียมนอนหลับพักผ่อนชาร์จไฟตามที่วันพรุ่งนี้ก็ต้องทำงานแล้ว ถ้าคลอดไปทัศน์เกมข้างนอก หรือว่าตามกิจกรรมแดงเดือดที่จัดขึ้นเหมือนปีก่อนๆ อาจจักมีติดลม งานไหลจนต้องตื่นสายไปทำงานได้เหมือนกัน

 

 

แต่ว่าอย่างน้อยถึงในเมืองไทยจักเงียบเหงายังไง แต่ประสงค์ให้ชมฟุตบอลคู่นี้ให้ได้ประเด็น ไม่ใช่อะไรมาก เพราะปีนี้มีแนวโน้มสูงว่า

 

 

พร้อมกับแม้จักเป็นนัดแนะสุดท้ายที่เราจะได้เห็น พี่เจิด สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงเตะบอลที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดในสีเสื้อลิเวอร์พูลครับ

Bank

Comments

You are not authorized to see this part
Please, insert a valid App IDotherwise your plugin won't work.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may have missed

Plugin from the creators ofBrindes Personalizados :: More at PlulzWordpress Plugins