Tag Archives: ทีวีออนไลน์ช่อง 9

ทีวีออนไลน์ อ่านเรื่องย่อ ลิเก๊ ลิเก เรื่องย่อ ละคร ช่อง 5

 อ่านเรื่องย่อ ลิเก๊ ลิเก เรื่องย่อ ละคร ช่อง 5

null

  • ชื่อละครเรื่อง : ลิเก๊ ลิเก
  • ช่องละครที่ออกอากาศ : ช่อง 5
  • ละครออกอากาศทุกวัน : พุธ-พฤหัสบดี
  • เนื้อเรื่องย่อละคร ลิเก๊ ลิเก
  • ละครเรื่อง ลิเก๊ ลิเก บทประพันธ์โดย : ทีมเอ็กแซ็กท์
  • ละครเรื่อง ลิเก๊ ลิเก บทโทรทัศน์โดย : ตุณย์
  • ละครเรื่อง ลิเก๊ ลิเก กำกับการแสดงโดย : กิตติ บุญสกุลศักดิ์
  • ละครเรื่อง ลิเก๊ ลิเก ออกอากาศทาง: พุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.20 นาฬิกา ทางช่อง 5 เริ่มพฤหัสที่ 2 ตุลาคม 2557


เรื่องย่อละคร ลิเก๊ ลิเก

ดูทีวีหลังจากที่พร้อมพงศ์ แสดงโดย มนตรี เจนอักษร ติดหนี้การพนัน เสี่ยเต๊ก แสดงโดย เมทนี บุรณศิริ เจ้าของบ่อนคาสิโนเป็นเงินนับ 10 ล้าน ทำให้ พงศ์เทพ แสดงโดย หนุ่ม – ศรราม เทพพิทักษ์ ลูกชายต้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยใช้หนี้ให้พ่อ วันหนึ่งเสี่ยเต๊กกับ เหลียนฮัว แสดงโดย วราพรรณ หงุ่ยตระกูล ภรรยาจับได้ว่า เหมยฮัว แสดงโดย จิ๊บ – ปกฉัตร เทียมชัย ลูกสาวตั้งท้อง เสี่ยเต๊กปักใจเชื่อว่าเหมยฮัวท้องกับพงศ์เทพ เพราะทั้งคู่ชอบอยู่ด้วยกันสองต่อสองบ่อยครั้ง แม้พงศ์เทพจะปฏิเสธก็ไม่มีใครเชื่อ พร้อมพงศ์เลยบังคับให้พงศ์เทพแต่งงานกับเหมยฮัวเพื่อปลดหนี้ พงศ์เทพเสียใจมากที่พ่อจะขายตนใช้หนี้ จึงหนีการแต่งงานไป

หลังจากที่พงศ์เทพหนีโซซัดโซเซไปแอบขึ้นรถของ คณะลิเกเทียมฟ้า หนีไปอยุธยา พงศ์เทพหลอกชาวคณะว่าความจำเสื่อม ครูเทียม แสดงโดย สุประวัติ ปัทมสูต เจ้าของคณะจึงยอมให้อาศัยอยู่ด้วย พงศ์เทพปิ๊งรักกับ จอมนาง แสดงโดย เปา – เปาวลี พรพิมล นางเอกลิเกคนสวยหลานสาวครูเทียม จอมนางเองก็ตกหลุมรักพงศ์เทพเช่นกัน แต่เพราะเป็นคนปากแข็งจึงเก็บงำความรักไม่บอกใคร จอมนางตั้งชื่อใหม่ให้พงศ์เทพว่า หลง หลง หรือ พงศ์เทพ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวคณะ เว้นอยู่คนเดียวคือ ฟ้าประทาน แสดงโดย สิงโต – สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล พระเอกลิเกขี้เก๊กที่เขม่นพงศ์เทพเพราะมาแย่งตำแหน่งขวัญใจชาวคณะ ฟ้าประทานจึงคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งพงศ์เทพอยู่ตลอด

ซึ่งพงศ์เทพจับผลัดจับผลูต้องขึ้นเล่นลิเกแทนตัวร้ายของคณะ ปรากฏว่าแม่ยกติดอกติดใจพงศ์เทพกันใหญ่ ครูเทียมเห็นแววเลยจะปั้นพงศ์เทพให้เป็นพระเอก เมื่อฟ้าประทานรู้เข้าก็ทะเลาะกันใหญ่โตจนถึงขั้นแตกหัก ครูเทียมไล่ฟ้าประทานออกจากคณะ ฟ้าประทานประกาศจะคว่ำคณะลิเกเทียมฟ้าให้ได้ ตุ้ม แสดงโดย ชาม โอสถานนท์ นางร้ายลิเกเมียลับๆ ของฟ้าประทานก็ตัดสินใจออกจากคณะตามฟ้าประทานไปสร้างคณะลิเกใหม่ด้วยกัน โดยมีเจ๊ทรงงามแม่ยกเบอร์หนึ่งของฟ้าประทานลงทุนทำคณะให้

และทางด้านครูเทียมปั้นพงศ์เทพขึ้นเป็นพระเอกลิเก ตั้งชื่อในวงการให้ว่า เทพทอง สุวรรณศิลป์ คณะลิเกเทียมฟ้ากับพระเอกใหม่แทบไม่มีคนดู เพราะลิเกของครูเทียมเป็น “ลิเกทรงเครื่อง” ที่แสดงบนพื้นฐานนาฏศิลป์ชั้นสูง ต่างจากลิเกประยุกต์ที่ใช้แสงสีเสียง ร้องเพลงดังๆ ดูทันสมัย ซึ่งคนดูชอบมากกว่า แต่ครูเทียมยืนหยัดจะไม่เปลี่ยนไปเล่นลิเกประยุกต์ เพราะมุ่งมั่นจะอนุรักษ์ลิเกทรงเครื่องเอาไว้

ตัวของพงศ์เทพศรัทธาความมุ่งมั่นของครูเทียมมาก เลยใช้ความรู้ที่มีช่วยโปรโมทลิเกทรงเครื่องของครูเทียม จนคนกลับมาดูกันแน่นโรงอีกครั้ง ฟากฟ้าประทานตกอับเพราะคณะลิเกที่ทำเองเจ๊งไม่เป็นท่า ฟ้าประทานกับตุ้มซมซานกลับมากราบเท้าขอโทษครูเทียม ครูเทียมให้อภัยและรับทั้งสองกลับเข้าคณะ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฟ้าประทานรู้ว่าผู้หญิงที่รักเขาที่สุดคือตุ้ม ฟ้าประทานจึงขอตุ้มแต่งงาน

หลังจากนั้นคณะลิเกเทียมฟ้าไปประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อฟ้าประทานกลับมาเป็นพระเอก พงศ์เทพก็หลีกทางให้ โดยพงศ์เทพไปทำหน้าที่การตลาดให้คณะแทน คณะลิเกเทียมฟ้าได้รับรางวัลชนะเลิศ พงศ์เทพจึงสามารถหางานให้คณะได้มากขึ้น เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางพงศ์เทพก็ตัดสินใจบอกรักจอมนาง จอมนางก็รับรักพงศ์เทพ แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขได้ไม่นาน เพราะ พร้อมพงศ์ เสี่ยเต๊ก เหลียนฮัว และเหมยฮัว จ้างนักสืบตามหาพงศ์เทพจนเจอ เสี่ยเต๊กบังคับให้พงศ์เทพรับผิดชอบเหมยฮัวที่ท้องโตใกล้คลอดเต็มที เมื่อจอมนางได้รู้ความจริงทุกอย่างก็เสียใจมาก และไล่พงศ์เทพออกไปจากคณะลิเกเทียมฟ้าทันที สุดท้ายความรักของหนุ่มหล่อชาวกรุง พงศ์เทพ กับนางเอกลิเก จอมนาง จะลงเอยอย่างไร?

มาร่วมตามลุ้นได้ในละคร “ลิเก๊ลิเก” ออกอากาศตอนแรกพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม นี้ ทางช่อง 5

รายชื่อนักแสดงละคร ลิเก๊ ลิเก

  1. ศรราม เทพพิทักษ์ แสดงเป็น พงศ์เทพ/หลง
  2. เปาวลี พรพิมล แสดงเป็น จอมนาง
  3. สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล แสดงเป็น ฟ้าประทาน
  4. ชาม โอสถานนท์ แสดงเป็น ตุ้ม
  5. พริมรตา เดชอุดม แสดงเป็น กระแต
  6. ปกฉัตร เทียมชัย แสดงเป็น เหมยฮัว
  7. สุประวัติ ปัทมสูต แสดงเป็น ปู่เทียม
  8. มนตรี เจนอักษร แสดงเป็น พร้อมพงศ์
  9. เมทนี บุรณศิริ แสดงเป็น เสี่ยเต็ก
  10. วราพรรณ หงุ่ยตระกูล แสดงเป็น เหลียนฮัว
  11. เอกชัย ศรีวิชัย แสดงเป็น กำจาย
  12. ไท ธนาวุฒิ แสดงเป็น โก่ง
  13. แจ็ค เชิญยิ้ม แสดงเป็น เจ๋ง
  14. ธนัญชัย เฮี้ยนชาศรี แสดงเป็น โก๊ะ

 

ดูทีวีออนไลน์ : ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู เรื่องย่อ ช่อง 3


ละครเหตุการณ์ ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู ทางช่อง 3

  1. ช่องที่ละครออกอากาศ : ช่อง 3
  2. ละครออกอากาศทุกวัน : ศุกร์-อาทิตย์
เนื้อเรื่องย่อละคร
ละครเรื่อง ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู



ดูทีวีเรื่องย่อละคร ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู

 
ข้อนี้ประสูติขึ้น ณ ย่านคนจีนแห่งหนึ่งในประเทศไทย  เป็นที่ตั้งของโรงงิ้วชื่อว่า “คณะฟ้าดิน”  ซึ่งดำรงฐานะโรงงิ้วธรรมดา  ชื่อคณะก็ธรรมดา  แต่เจ้าของโรงงิ้วกลับพิสดาร  คนงานของคณะงิ้วนี้กลับยิ่งพิสดาร  พิสดารที่นิสัยของเขา  พิสดารที่วิทยายุทธของเขา  พิสดารที่ความเป็นมาของเขา  แต่ขณะเดียวกันความรักของเขากลับอบอุ่น  ทั้งอบอุ่น  ทั้งลึกซึ้ง  กับมีพลัง  เหมือนแสงสุริยันที่ขับไล่ความมืดมนกับความหนาวเย็นไปได้ ซึ่งนี่คือเรื่องราวของคนงานคณะงิ้วคนนี้เขานั้นชื่อ “กังฟู”
เด็กคนนี้ชื่อว่า กังฟู นั้นเป็นลูกเลี้ยงของ เฮียเฉิน กับ ฮูหยิน สองผัวเมียผู้ก่อตั้งคณะงิ้วฟ้าดิน  ยังมี เฮียหลอ กับ เฮียเก้า สหายสนิทของเฮียเฉินร่วมก่อตั้งด้วย
ด้วยว่าชีวิตของ กังฟูนั้นมีเพื่อนพ้องสนิทต่างวัยคือ บู๊ลิ้ม ลูกชายวัยใสของเฮียเฉินกับฮูหยิน  กังฟูมีความฝันมุ่งหมายเป็นจอมยุทธวีรบุรุษเหมือนในนิยายกำลังภายใน  มีวิทยายุทธสูงส่ง  คุณธรรมสูงล้ำ  สร้างวีรกรรมที่เลื่องลือลั่นสะเทือนฟ้าดิน  แต่เวลานี้ที่เขาทำได้คือตระเวนขายซาลาเปาติ่มซำกับบู๊ลิ้ม  ส่วนเรื่องวิทยายุทธไม่ต้องพูดถึง ฮูหยินไม่ยอมให้เขาฝึกมวยจีนเลย  โดยไม่ยอมแจ้งให้ทราบเหตุผลด้วย
ซอยด้านของ บู๊ลิ้มนั้นมีเพื่อนหญิงใสกิ๊งชื่อ หลินหลิน ลูกสาวของ เสี่ยเพ้ง กับ ซ้อสอง เมียคนที่สองของเสี่ยเพ้ง  หลินหลินมีครูสอนนาฏศิลป์สาวสวยชื่อ เมลดา ซึ่งเป็นทั้งครูสอนรำไทย  พร้อมด้วยเป็นนักมวยไทยด้วย  กับยังเป็นว่าที่คนรักสาวของ เมฆา ลูกชายคนโตของเสี่ยเพ้ง  เมฆาเป็นลูกติดของ เหมยอิง เมียคนแรกของเสี่ยเพ้ง  แม้ภายนอกเมฆาจักดูเป็นชายหนุ่มนิสัยดี  แต่ในจิตใจของเขากลับเต็มไปด้วยความชั่วร้ายตามสายเฟุ้งเฟื่องด  เพราะพ่อที่แท้ครันของเขาคือ จางซื่อ หัวหน้าพรรคอสูรเทวา  พรรคจอมมารผู้ทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งของฮ่องกง  จางซื่อคิดจะขยายอิทธิพลมาที่ประเทศไทย  เขากับ มิเชล กับ อาเฟย สองศิษย์เอกชักชวนเมฆาเป็นพวกด้วย
ซึ่งแบบด้านของ เมฆาวางแผนฆ่าเสี่ยเพ้ง  ซ้อสอง  หลินหลิน  เพื่อจะได้ขึ้นเป็นใหญ่แทน  แต่หลินหลินรอดมาได้ก็เพราะว่าเมลดาช่วยไว้  รวมทั้งยังมีกังฟูกับบู๊ลิ้มข้ามมาเจอพร้อมกับช่วยไว้ได้ด้วยความบังเอิญ  แต่โชคร้ายที่หลินหลินช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนความจำเสื่อม  เมฆาจะฆ่าทั้งหลินหลินด้วยกันเมลดาเพื่อปิดปาก  แต่ตามหาเมลดาไม่เจอะ  จึงใส่ร้ายเมลดาว่าเป็นฆาตกรฆ่าเสี่ยเพ้ง
ในช่วงที่กังฟูให้ที่พักพิงแก่เมลดาพร้อมกับหลินหลินให้ซ่อนอยู่ในโรงงิ้ว  แล้วค่อยไปติดต่อ เฮียป้อ พ่อหม้ายเจ้าของบ้านเช่าให้รับเมลดากับหลินหลินเข้าพัก  เพราะทั้งสองปลอมตัวเพื่อหลบหลีกลูกน้องของเมฆากับพวกตำรวจ  ใช้ชื่อปลอมว่าหลินฮุ่ยกับหลินปิง  แต่ชีวิตที่บ้านเช่าก็ใช่ว่าจักสงบราบเรียบเพราะว่ามีหมวยใหญ่ชื่อ เจ๊ยี้ ที่ใคร่ได้ได้เฮียป้อเป็นสามีของเธอคนเดียวคอยราวีเมลดา  เพราะระแวงว่าเมลดาจักใช้เรือนร่างจ่ายค่าเช่าแทนเงิน
ในใจของมิเชลนั้นตกหลุมรักเมฆา  มิเชลช่วยเมฆาตามล่าเมลดากับหลินหลิน  เพราะจับตัวพ่อของเมลดาไปเป็นตัวประกัน  กังฟูจึงฝึกลมปราณพิสดารที่ฝึกแล้วจะกลายเป็นตุ๊ด  แต่ทำเป็นใช้วิทยายุทธนี้ช่วยเมลดากับพ่อพ้นจากเงื้อมมือของมิเชลได้  แต่พ่อของเมลดาก็บาดเจ็บมากและตายในยุคต่อมา  เมลดาแค้นมิเชล มาก  แต่ห่วงกลัวไม่มีใครดูแลหลินหลิน  เธอจึงต้องระงับความคิดที่จักแก้แค้นไว้ก่อน

ทิศานุทิศด้านของพวกอาจารย์หลอ  เฉิน  เก้า  ต้องหาทางช่วยกังฟูให้หายจากการเป็นตุ๊ดเพราะว่ากลัวฮูหยินรู้เรื่อง  ขณะรักษาลมปราณตุ๊ด  พวกเขาพบว่าในร่างของกังฟูมีลมปราณลึกลับอีกสายหนึ่งที่แอบซ่อนอยู่  ทั้งสามกังวลว่ามันอาจเกี่ยวข้องชาติกำเนิดที่แท้นักของกังฟู  พร้อมด้วยเรื่องนี้ก็เป็นสาเหตุที่ฮูหยินไม่จำยอมให้กังฟูฝึกวิทยายุทธ  ก็เพราะว่ากลัวกังฟูจะกลายเป็นจอมมารไร้เทียมทานเหมือนพ่อของเขา
ซึ่งทางด้านของฮูหยินกลับ ถ่ายทอดวิทยายุทธทั้งหมดที่มีนั้นให้กับ พายุ ลูกชายบุญธรรมอีกคนของเธอ  พายุกับกังฟูต่างก็เป็นลูกเลี้ยงของฮูหยินเหมือนกัน  แต่ฮูหยินรักพร้อมกับส่งเสริมพายุ  ให้แต่สิ่งดีๆกับพายุ  จนพายุเติบใหญ่เป็นหนุ่มที่ความรู้ดี  วิทยายุทธสูงล้ำ  ตรงข้ามกับกังฟู  พายุจึงรู้สึกว่าเขาเป็นคุณชายและมองกังฟูว่าเป็นคนใช้ของเขา  ขณะที่กังฟูขายติ่มซำหาเงินช่วยโรงงิ้ว  พายุก็มีหน้าที่ถลุงเงินอย่างเปรมปรีดิ์  เพราะว่ามีฮูหยินคอยให้ท้าย  
ซึ่งลู่ทางด้านของพายุกับกังฟูพ้นไปเจอ ติงลี่ เจ้าพ่อไนท์คลับโดนถล่มจาก เฮียเต๋า เจ้าพ่อคู่แข่ง  พายุหนีเอาตัวรอด  แต่กังฟูเสี่ยงชีวิตช่วยติงลี่ด้วยมนุษยธรรม  แต่พอพายุรู้ว่าติงลี่เป็นเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ก็บ่งให้กังฟูหลบไป  พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นคนที่ช่วยชีวิตติงลี่  จนติงลี่เอ็นดูเมตตาให้พายุเป็นผู้ช่วยสิ่งของเขา  พายุดีใจมากเพราะว่าเห็นทางที่จักเป็นใหญ่เป็นโตดีกว่าอยู่แบบเฉาๆในโรงงิ้วที่เขานึกรังเกียจ
พร้อมทั้งที่ที่ไนท์คลับของติงลี่  พายุดันไปตกหลุมรักกับ เนตรนภา เมียน้อยของติงลี่  ซึ่งเนตรนภาก็เป็นพี่สาวของเมลดา  แต่สองพี่น้องผิดใจกันอย่างรุนแรงตั้งแต่ตอนที่พ่อของพวกเธอตาย    
ซึ่งเมฆาขึ้นจองอาณาจักรของเสี่ยเพ้ง  เขาแผ่อิทธิพลของอสูรเทวาเพราะว่ามีมิเชลคอยช่วยเหลือเลื่อง  ทำให้จางซื่อพอใจมาก  แต่เหมยอิงกลับระทมทุกข์  เพราะว่าเสียใจที่เมฆาลูกของเธอเป็นคนเลวทรามอกตัญญูได้ถึงขนาดนี้  จางซื่อมาหาเหมยอิง  สองผัวเมียได้พบหน้ากันอีกครั้งกับความลับในอดีตจึงได้ถูกเปิดเผย
กับนับเป็นเวลายี่สิบกว่าปีแล้ว  ที่ฮ่องกงมีสำนักมวยเกิดใหม่ชื่อ “อสูรเทวา”  เจ้าสำนักชื่อ จางเหลียง  วิทยายุทธสูงล้ำไร้ผู้ต่อต้าน  จางเหลียงแสดงตัวแผ่อิทธิพลด้วยความโหดร้าย  จนอสูรเทวาเป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง  จนขณะเมียของจางเหลียงคลอดบุตรชายคนแรกชื่อ จางฟุ  แต่โชคร้ายเมียของเขาตายในตอนนั้น  เรื่องนี้กระทบจิตใจจางเหลียงมาก  เขาตั้งใจเปลี่ยนอสูรเทวาให้เป็นพรรคฝ่ายธรรมะ  เหมยอิงน้องสาวของเขาเห็นด้วย  แต่หลายคนในพรรคกลับต่อต้านความคิดนี้  ก็เพราะว่าจักทำให้อิทธิพลของพรรคลดลง  พวกเขาจึงวางแผนลอบสังหาร  เพราะว่ามีจางซื่อน้องเขยของจางเหลียงเป็นแกนนำ  จางเหลียงถูกฆ่าตาย  แต่ก่อนตายยังทำได้ช่วยให้เหมยอิงพาจางฟุหนีออกจากฮ่องกงได้  เพราะว่าก่อนตายจางเหลียงได้ถ่ายทอดลมปราณเคลื่อนตะวันให้จางฟุ  เหมยอิงครั้นเมื่อมาถึงเมืองไทยก็พาจางฟุไปฝากกับเฮียเฉิน  ซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าของเธอ    เฮียเฉินกับฮูหยินรับเลี้ยงดูก็เพราะว่าพวกเขามุ่งหมายมีลูกแต่ไม่มีลูก (ก่อนที่จักมีบู๊ลิ้มในภายหลัง)  แล้วเหมยอิงก็จากมาเพราะว่าไม่ต้องการให้ฮูหยินระแวงเรื่องของเธอกับเฮียเฉิน  ก่อนที่เธอจักแต่งงานกับเสี่ยเพ้ง  และคลอดเมฆาลูกของจางซื่อ
เมื่อจางซื่อสงสัย จึงได้ถามเหมยอิงเรื่องจางฟุ  เหมยอิงโกหกว่าตายไปแล้ว  แต่จางซื่อไม่เชื่อ  ความแน่ๆแล้วตลอดเวลาที่ข้ามมา  เหมยอิงจะคอยแอบไปดูกังฟูตลอด  ตั้งแต่เขาเป็นเด็กจนโต  พร้อมกับทันทีกังฟูกำลังจักได้เป็นพระเอกงิ้ว  เหมยอิงตื่นเต้นมาก  ตั้งใจจักไปดูงิ้วให้ได้  เพราะว่าไม่รู้ตัวว่าจางซื่อให้คนจับตาสะกดรอยเธออยู่
พร้อมกับเหตุที่กังฟูได้เป็นพระเอกงิ้วก็เพราะว่าตอนที่กังฟูออกไปขายติ่มซำ  เขาไปมีเรื่องชกต่อยกับอันธพาล  แต่นั่นกลับทำให้พรสวรรค์ทางด้านวิทยายุทธในสายเละบือดของกังฟูเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว  เฮียเฉินเลยให้กังฟูเลิกขายของมาเล่นงิ้วแทน  วันๆได้แต่แต่งหน้ารำงิ้วไปมา  แต่มีปัญหาคือกังฟูไม่ยอมเล่นบทพระนางกับฮูหยิน  เลยต้องหานางเอกใหม่ให้  กังฟูเลยชวนเมลดาที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินมาเล่นเป็นนางเอกงิ้ว   ซึ่งเมลดาใช้พื้นฐานเรื่องรำไทยมาประยุกต์  ทำให้เธอรำงิ้วได้อย่างอ่อนช้อยสวยงาม
 

ในเวลาต่อมานั้นเสี่ยติงลี่ได้เตรียมแก้แค้นเฮียเต๋า  ให้พายุได้แสดงฝีมือเป็นตัวลุย  พายุกลัวเจ็บตัวเลยหลอกใช้กังฟูให้มารับบทองครักษ์ให้เขา  พร้อมทั้งแอบสอนวิทยายุทธขั้นพื้นฐานให้  เพราะไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นการปลุกพลังยุทธในตัวกังฟูที่หลับไหลอยู่ให้ตื่นขึ้น  ครั้นศึกสองแก๊งค์ระเบิดขึ้น  กังฟูรับบทองครักษ์ให้พายุ  ทำให้พายุลุยแหลกโชว์ผลงานเข้าตาติงลี่  แต่กังฟูบาดเจ็บเกือบตาย  เมลดาเป็นคนเดียวที่เห็นสภาพบาดเจ็บของกังฟู  เธอคอยอยู่ดูแลพยาบาลเขา  ทำให้กังฟูซาบซึ้งใจมาก 
ซึ่งเมลดาได้พบตำรามวยพหุยุทธของพ่อเธอ  นั่นทำให้เมลดาฝึกมวยพหุยุทธเพราะว่ามีกังฟูเป็นคู่ซ้อม  ตอนกลางวันทั้งสองซ้อมงิ้ว  ตอนกลางคืนก็ซ้อมมวย  ความสัมพันธ์ของกังฟูกับเมลดาเริ่มต้นไปไกลและลึกซึ้งขึ้นทุกที
พร้อมกับ งิ้วเรื่องที่กังฟูเล่นกับเมลดาเปิดผนังแสดงขึ้น  ในรอบนั้นเหมยอิงมานั่งดูด้วยความปลื้มใจ  เพราะว่าไม่รู้ตัวว่าจางซื่อกับมิเชลสะกดรอยตามเธอมาด้วย  อย่างไรก็ตามมิเชลกลับรู้สึกแปลกๆครั้นได้เห็นหน้าเฮียหลอ  นอกจากสามคนนี้แล้วยังมีพายุชวนเนตรนภามาดูงิ้วในการออกเดทครั้งแรกด้วย  รวมทั้งบู๊ลิ้มก็พาหลินหลินมาดูด้วยเช่นกัน  การแสดงข้ามไปด้วยดี  จางซื่อพามิเชลมาดักฆ่ากังฟู  กังฟูสู้มิเชลไม่ได้เลย  โดนทำร้ายจนปางตาย  พายุกำลังป้อเนตรนภาสร้างผ่านมาเห็นเข้า  พายุต้องประสงค์โชว์เนตรนภาเลยเข้ามาช่วยกังฟูสู้กับมิเชล  ทำให้จางซื่อเข้าใจผิดว่าพายุคือลูกชายของจางเหลียง
ซึ่งทางด้านของเมลดาได้ตามต่างว่าังฟู  เห็นเขานอนสลบอยู่กับพื้นก็พาเขาไปส่งที่ห้อง  กังฟูไข้ขึ้น  เพ้อสารภาพความในใจว่ารักเมลดา  แต่เป็นเมลดาที่จำต้องไม่รับกังฟู  เพราะเธอมีความแค้นที่รอการชำระอยู่ กังฟูกับเมลดาปรับความเข้าใจกัน  ทั้งสองต่างก็รักกันแต่มันยังไม่ถึงเวลาของความรัก

เอ๊ะๆ!! เรื่องยังไม่จบแค่นี้นะ ถ้าตะกลามรู้ว่าเรื่องราวนี้จักจบยังไงต้องไปติดตามต่อได้ที่นี่เลยครับ
กับท่านรอบรู้รับชม ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ได้ที่นี่ตลอด24 ชมเลยนะครับ

เผยภาพโปสเตอร์แรก ละคร พราว จากค่าย พอดีคำ

หลังจากที่ได้เปิดกล้องถ่ายทำกับไปพักใหญ่ และทางค่าย พอดีคำ ทางช่อง 7 สี ก็ได้ปล่อยภาพใบปิดโปสเตอร์แรกของละครเรื่อง พราว ออกมาให้แฟนละครได้ชมสดๆร้อนๆ แล้วจ้า กับฝีมือการออแบบของ Witcha Suyara 

ซึ่งในภาพแรกของละครเรื่องนี้ เป็นภาพพระ-นาง เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ อั้ม พัชราภา เคียงคู่กันบนฉากสีทอง อร่ามตา แถมนักออกแบบยังแย้มๆด้วยว่า ละครเรื่องนี้มีโปรเตอร์เยอะมากๆ แค่ใบปิดแรกก็ดูดีขนาดนี้ แฟนๆต้องรออีกนิด ก็จะได้ชมแบบต่อไปแล้วจ้า 

 

รูปโปสเตอร์ละครเรื่อง พราว

ดูทีวีออนไลน์ละครเรื่อง พราว เป็นเรื่องราวของซุปตาร์ตัวแม่ของไทย เจ้าแม่อีเว้นท์เจ้าอารมณ์ ที่ต้องมาปะทะคารมกับตำรวจหนุ่มคู่กัด สมชาย ที่กลายมาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้เธอ และเรื่องราวของ มีน หญิงสาวที่หน้าตาคล้ายกับพราวจนเหมือนคนๆ เดียวกัน เรื่องราวสุดวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

และหากมีเรื่องราวละครเรื่องอัพเดต Sanook Movie จะรีบนำมาให้แฟนๆได้ติดตามนะจ๊ะ

 


 

นางสาวยิ่งลักษณ์ข้องใจ! ทำไม ปปช.ต้องเร่งตัดสินคดีทุจริตจำนำข้าว

‘ยิ่งลักษณ์‘ ข้องใจ! ปปช.เร่งตัดสินคดีทุจริตจำนำข้าว

ดูทีวีออนไลน์ วันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รร.เอส ซี ปาร์ค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมทนายความ ออกแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ปปช. ไม่เป็นธรรมกรณีชี้มูลความผิดกรณีตั้งข้อสังเกตุ ป.ป.ช. เร่งตัดสินคดีดังกล่าว และเลือกฟังเฉพาะพยานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตน ไม่สอบสวนการลงบันทึกบัญชี

ในส่วนกรณีการเดินทางไปต่างประเทศนั้น ยืนยัน เป็นการเดินทางส่วนตัวและมีการกำหนดการชัดเจน ก่อนที่ปปช.จะชี้มูลความผิด

พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวข้อความทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ดิฉันเป็นราษฎร์เต็มขั้นก็ควรจะมีเสรีภาพเยี่ยงคนไทยทั่วไปยืนยันไม่ทิ้งพี่น้องคนไทและ พร้อมกลับมาประเทศไทย

กราบเรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ดิฉันว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา ดิฉันนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอเรียนว่า

1.กระบวนการยุติธรรมนั้นเป็นไปตามหลักนิติธรรมสากลหรือไม่ เพราะมองว่าเป็นการพิจารณาที่ เร่งรีบ รวบรัด โดยแจ้งข้อกล่าวใช้เวลาเพียง แค่ 21 วัน และหลังจากนั้นก็ชี้มูลความผิดอาญาต่อดิฉัน ภายใน 140 วันซึ่ง ป.ป.ช.ไม่เคยปฏิบัติกับคดีอื่น ๆ ที่ดำเนินการกับนักการเมืองเช่นเดียวกับการปฏิบัติต่อดิฉัน เมื่อเทียบเคียงกับการดำเนินคดีกับการโครงการประกันราคาข้าว ที่ ป.ป.ช.ใช้เวลาในการดำเนินการนานไม่น้อยกว่า 4 ปี คดี ปรส ที่ล้าช้า . โครงการทุจริตโรงพักทั่วประเทศ ป.ป.ช. กลับไม่มีความคืบหน้า อันถือว่ามิได้มีบรรทัดฐานอย่างเดียวกัน

2. นอกจากนี้ ในการปฏิบัติ ของ ป.ป.ช. เมื่อเทียบกับคดีอื่น ๆ เห็นว่า คดีนี้มีพฤติการณ์ รวบรัด เป็นกรณีพิเศษดังนี้ เลือกรับฟังพยานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตัวดิฉัน ตัดสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ในการเสนอพยานบุคคลที่เป็นส่วนสาระสำคัญ ไม่รอผลการพิสูจน์เรื่องสต็อกข้าวให้เป็นที่สิ้นสุด เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องสต็อกข้าว ทั้ง ๆ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไปร่วมสังเกตการณ์แล้ว ไม่ไต่สวนในข้อเท็จจริง กรณีการลงบันทึกบัญชีที่ข้อแย้งและแตกต่างกันของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และ คณะกรรมการ กขช.ให้เป็นที่สิ้นสุด กรณีไม่พิจารณาการที่ดิฉันคัดค้าน นายวิชา รวม 3 ครั้ง

3.นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายระดับประเทศ นายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหาร เป็นเพียงผู้กำกับดูแลเท่านั้น ส่วนในระดับปฏิบัติการนั้นเป็นการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆหลายหน่วยงาน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีขั้นตอนและกระบวนการตรวจสอบที่ชัดเจน แต่ในข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. กลับฟังความข้างเดียว ในขณะที่ความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเห็นไม่ตรงกันในข้อเท็จจริง

4. นอกจากนี้การแถลงข่าวของ ป.ป.ช.ต่อสาธารณะที่ผ่านมา ยืนยันว่า คดีในเรื่องระบายข้าวไม่เกี่ยวข้องกับดิฉัน ทำให้ไม่ได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวมาต่อสู้ และหักล้าง แต่ในข้อวินิจฉัยในการชี้มูลกลับนำ ข้อเท็จจริงในคดีระบายข้าวมาชี้มูลความผิดกับดิฉันด้วย

5. ที่ผ่านมาดิฉันพยายามชี้แจงและร้องขอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวน และสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเป็นธรรม แต่ ป.ป.ช. ปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งที่ข้อเท็จจริงอีกหลายเรื่อง เช่น ข้าวเสื่อมสภาพและข้าวหาย หน่วยงานที่ควบคุมดูแล สต็อกข้าว ทั้งองค์การคลังสินค้า อ.ค.ส. และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร อ.ต.ก.ได้ทำสัญญาต่าง ๆกับเจ้าของคลังสินค้า และบริษัทประกัน รับผิดชอบค่าเสียหาย หากเกิดกรณีข้าวสูญหาย และการเสื่อมสภาพข้าวที่ผิดปกติธรรมชาติ ดังนั้นการกล่าวอ้างเรื่องรัฐ มีความเสียหายจากข้าวหาย และข้าวเสื่อมคุณภาพ จึงเป็นการไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อดิฉันในฐานะผู้ถูกกล่าวหา

6. ขอตั้งข้อสังเกตว่า การกล่าวหาและการไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้นำพยานหลักฐานและไต่สวนพยานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อดิฉันและเลือกที่จะรับฟังพยานหลักฐานหรือไม่ ในขณะที่ดิฉันได้พยามเสนอพยานหลักฐานต่าง ๆแต่ ป.ป.ช.กลับละเลย และปฏิเสธที่จะไต่สวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง

7. ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ดิฉันจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อที่จะหนีคดีต่างๆนั้น ขอยืนยันว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางส่วนตัว และมีกำหนดการไปกลับที่ชัดเจนและมีการเตรียมการล่วงหน้า แล้วก่อนที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอย่างเร่งด่วน วันนี้ดิฉันเป็นราษฎรเต็มขั้นแล้วควรจะมีสิทธิเสรีภาพเยี่ยงประชาชนคนไทยทั่วไป ขอยืนยันว่า จะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนคนไทย และพร้อมจะกลับมาสู่ประเทศไทย”

ผู้โดยสารมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวที่กำลังจะเดินทางไปร่วมการประชุมเอดส์นานาชาติครั้งที่ 20 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

มิเชล ซิดิเบ กรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจผ่านทวิตเตอร์ว่า “ขอแสดงความอาลัยและภาวนาแก่ครอบครัวของผู้ที่จากไป พร้อมเที่ยวบิน MH17 ผู้โดยสารส่วนใหญ่กำลังจะเดินทางมาร่วมประชุม AIDS 2014 ที่เมลเบิร์น”

นักวิจัยด้านโรคเอดส์ผู้มีชื่อเสียง และอดีตประธานสมาคมเอดส์สากล (International AIDS Society) เป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าว ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าน่าจะถูกยิงตกโดยขีปนาวุธชนิดจากพื้นดินสู่อากาศ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คน บนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด

“มีรายงานว่า อดีตประธานสมาคมเอดส์สากลที่โดยสารเครื่องบินลำนี้ได้เสียชีวิตพร้อมกับนักวิทยาศาสตร์อีกหลายคนที่จะเดินทางมาประชุมโรคเอดส์ นี่เป็นข่าวที่น่าเศร้าเสียใจยิ่ง” ข้อความในทวิตเตอร์ของกองทุนเนชันแนล เอดส์ ทรัสต์ ระบุ

ด้านสมาคมเอดส์สากลก็ออกมาแถลงยืนยันว่า “เพื่อนร่วมงานและมิตรสหายของเราหลายคน” กำลังเดินทางมาร่วมประชุมด้วยเที่ยวบิน

MH17 การประชุมเอดส์นานาชาติซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี ถือเป็นเวทีเสวนาสำหรับนักเคลื่อนไหวที่ต้องการเน้นย้ำปัญหาการแพร่กระจายของโรคเอดส์ในระดับรากหญ้า รวมถึงงบประมาณที่ยังขาดแคลน โดยมีกำหนดเปิดฉากขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. นี้ และมีผู้ลงนามเข้าร่วมการประชุมราว 12,000 คน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐฯ ติดตามชม ทีวีออนไลน์ ดูทีวี ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9

 

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงเครื่องบินMH17 ตกในยูเครน

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซียแสดงความรู้สึกตกใจอย่างมากหลังทราบข่าวเครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ ตกในยูเครน ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเครื่องบินถูกยิงด้วยขีปนาวุธ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด นับเป็นโศกนาฎกรรมที่เกิดกับเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์เป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน หลังเครื่องบินMH370 ของสายการบินหายไปอย่างไร้รอ

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งแต่งกายในชุดดำ มีสีหน้าที่เศร้าหมอง ขณะแถลงข่าวในกรุงกัวลาลัมเปอร์ถึงโศกนาฎกรรมที่เกิดกับเครื่องบินโดยสารMH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่ตกในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเครื่องบินถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธ ขณะที่ญาติผู้โดยสาร ซึ่งมารวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ต่างก็อยู่ในอาการเศร้าสลดและร่ำไห้

นายกรัฐมนตรีราซัค กล่าวว่า รู้สึกตกใจอย่างมากหลังทราบข่าวและว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือวันที่เศร้าสลดและเป็นปีแห่งความสูญเสียของมาเลเซีย พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ได้ส่งทีมสืบสวนเดินทางไปที่ยูเครนแล้วเพื่่อหาสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรกับเครื่องบิน นายราซัคยังบอกอีกว่าได้โทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีเปโตร โปโลเชนโก้ ผู้นำยูเครนเกี่ยวกับการสืบหาสาเหตุของโศกนาฎกรรม โดยนายโปโรเชนโก้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่และเป็นอิสระ นอกจากนี้นายโปโรเชนโก้ยังยืนยันด้วยว่า จะเจรจากับกลุ่มกบฎทางภาคตะวันออกเพื่อให้จัดตั้งพื้นที่เพื่อมนุษยธรรมในจุดที่เครื่องบินตกเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ของยูเครนและมาเลเซียเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นายราซัคยังกล่าวตอบข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดเครื่องบินโดยสารจึงใช้เส้นทางการบินเหนือเขตพื้นที่สู้รบในยูเครน โดยระบุว่า เป็นเส้นทางการบินที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศประกาศว่าเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยและว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ชี้ชัดได้ว่าเครื่องบินถูกยิงด้วยขีปนาวุธหรือไม่ ขณะที่สายการบินชั้นนำของโลกต่างประกาศหลีกเลี่ยงเส้นทางการบินทางภาคตะวันออกของยูเครน

ประโยคสุดท้าย หนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กก่อน MH17 ถูกยิงตก

ชมทีวีออนไลน์ช่อง 5จากกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ของ สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 เส้นทางกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้าสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประสบเหตุตกในประเทศยูเครน เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 298 คน ท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆ และแนวทางการสืบสวนข้อเท็จจริง โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างแชร์ข้อความสุดท้ายของหนุ่มชาวดัตซ์ หนึ่งในผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MH17

ภาพเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อ “Cor Pan” ถูกแชร์ส่งต่อไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งกลายเป็นภาพสุดท้ายที่หนุ่มชาวดัตซ์คนหนึ่งโพสต์เอาไว้ ก่อนขึ้นเครื่องบินจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยระบุข้อความเป็นภาษาดัตซ์ว่า “Mocht hij verdwijen ,zo ziet hit d’r uit” หรือแปลว่า “เผื่อเครื่องบินลำนี้หายไป จะได้รู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง” ข่าว http://tv.sanook.com/

 

ลือสนั่น! MH17 ถูกยิงตก เหตุคล้ายเครื่องบิน ปธน.ปูติน

สำนักข่าวต่างประเทศยังคงเกาะติดรายงานสถานการณ์ เหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 เส้นทาง กรุงอัมสเตอร์ดัม มายัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งถูกขีปนาวุธยิงระหว่างผ่านน่านฟ้าประเทศยูเครน จุดที่เกิดข้อพิพากแบ่งแยกดินแดนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 298 คน ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

จากรายงานที่มีการเผยแพร่ออกมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการยืนยันชัดเจนว่า มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ที่ประสบเหตุตกในประเทศยูเครนนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าเป็นการก่ออาชญากรรมครั้งร้ายแรง ซึ่งระบุว่าเป็นขีปนาวุธจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ยิงใส่เครื่องบินลำดังกล่าว ขณะกำลังบินอยู่ในระดับ 33,000 ฟุต เหนือน่านฟ้าประเทศยูเครน

ขณะที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนโดเนตสค์ กลุ่มฝักใฝ่รัสเซีย ได้ออกมาปฏิเสธเป็นต้นเหตุทำให้ มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ประสบเหตุตกในประเทศยูเครน พร้อมกับกล่าวอ้างว่า ฝ่ายรัฐบาลยูเครนต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งนี้ เนื่องจากขีปนาวุธที่เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงใส่ คล้ายจะเป็นจรวดมิสไซล์ “BUK” ของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งมีวิถีการยิงค่อนข้างไกล แตกต่างจากยุทโธปกรณ์ของกลุ่มกบฏ ที่ไม่มีอาวุธกำลังแรงสูงขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นกับ มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ยังคงเป็นปริศนา ประชาคมทั่วโลกต่างต้องการได้รับคำตอบที่แท้จริงว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเครื่องบินเชิงพาณิชย์ลำดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในแวดวงการบินของโลก

ทั้งนี้ยังเกิดข้อสันนิษฐานว่า มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 อาจจะเป็นแค่เหยื่อของความขัดแย้งระหว่างภูมิภาค มีการตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ของ มาเลเซีย แอร์ไลน์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ เครื่องบินอิลยูชิน IL-96-300 พียู ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีรัสเซีย “วลาดิเมียร์ ปูติน” ไม่ว่าจะเป็นขนาดรูปร่างหรือแถบสีรอบตัวเครื่องบินมีความคล้ายกันเป็นอย่างมาก

ดูทีวีรวบรวมข่าวเด็ดข่าวดังประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา

“แม่ชีเชอรี่“ น้ำตานองหน้า ยันลูกศิษย์ถวาย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” รายงานว่า รับทราบจาก นายวรเดช กาญจนอโนทัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วง อยู่บ้านเลขที่ 1142 หมู่ 4ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้จัดพิธีทำบุญพระสงฆ์ โดยได้นิมนต์พระครูสุธรรมวีราจารย์ (พระอาจารย์สมใจ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมพระลูกวัด รวม 6 รูป มาทำพิธีทางศาสนาเพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีนางสาวสุปริญญา ฮุนนางกูร หรือแม่ชีเชอรี่ รวมทั้งแม่ชีจากวัดถ้ำขวัญเมือง และอุบาสกอุบาสิกาจากจังหวัดชุมพร และใกล้เคียง ร่วมเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวทีวีออนไลน์ “ข่าวสด” รายงานว่า เมื่อไปถึงหน้าบ้าน พบมีรถยนต์ รถยนต์ตู้ รถยนต์กระบะ จอดอยู่ประมาณ 10 คัน เมื่อนายวรเดช เห็นผู้สื่อข่าวจึงเดินออกมาต้อนรับและพูดคุยด้วย แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในบ้าน โดยระบุว่า พระครูสุธรรมวีราจารย์(พระอาจารย์สมใจ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าพบ ตนในฐานะเป็นลูกศิษย์จึงต้องทำตาม ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏตามข่าวเกี่ยวกับ แม่ชีเชอรี่ ที่พักอยู่ภายในบ้าน โดยนายวรเดชได้กล่าวว่า พระครู และแม่ชีเชอรี่ จะเป็นผู้แถลงข่าวด้วยตนเอง

นายวรเดช กล่าวถึงได้พูดคุยเกี่ยวกับกรณีของแม่ชีเชอรี่ว่า ภาพที่ปรากฏตามสื่อที่แม่ชีกำลังขับรถสปอร์ตปอร์เช่ รวมทั้งใช้กระเป๋าข้าวของเครื่องประดับยี่ห้อแบรนด์เนมราคาแพง และมีถ่ายภาพคู่กับกองเงินจำนวนมาก ที่จริงแล้วในวันนั้นเป็นวันทำบุญ โดยมีศิษยานุศิษย์ เดินทางนำเงินมาร่วมบริจาคทำบุญให้กับทางวัดเป็นจำนวนมาก หลังจากนับเงินเสร็จ จะต้องรีบนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร เนื่องจากที่วัดอยู่สายธรรมยุต จึงไม่สามารถเก็บเงินเอาไว้ที่วัดได้ ปกติจะมีลูกศิษย์ขับรถให้กับแม่ชี บังเอิญวันนั้นคนขับรถไม่อยู่ และทางวัดกำลังยุ่งมาก แม่ชีเชอรี่จึงตัดสินใจขับรถคันดังกล่าวเพื่อนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารด้วยตนเอง และหลังจากนำเงินไปเข้าบัญชีแล้วเสร็จ แม่ชีก็ขับรถกลับมาอยู่ที่วัดตามเดิม โดยไม่ได้ไปไหน แต่มาภายหลังปรากฏว่ามีลูกศิษย์ที่อยู่ในวัด เชื่อว่าลูกศิษย์คนนั้นคงหวังทำลายชื่อเสียงของแม่ชีเชอรี่ จึงนำภาพที่ถ่ายเอาไว้นำไปเผยแพร่เพื่อทำลายชื่อเสียง และตนเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันอย่างแน่นอน

นายวรเดช กล่าวถึง รถยนต์สปอร์ตปอร์เช่ที่เห็นในภาพข่าว เป็นรถยนต์ของลูกศิษย์ที่ไปนั่งวิปัสนาภายในวัดอยู่เป็นประจำ แต่ละครั้งจะนั่งวิปัสสนาทั้งหมด7 วัน กฎระเบียบของวัดคือหากลูกศิษย์เข้าไปนั่งวิปัสนา ทุกคนจะต้องฝากกุญแจรถยนต์ทุกชนิด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดไว้กับแม่ชีที่อยู่ในวัดและไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ชีเชอรี่คนเดียว และด้วยความเคารพศรัทธาในตัวแม่ชีศิษย์จึงถวายรถคันดังกล่าวให้กับแม่ชี เพื่อนำไปใช้ในยามจำเป็นเพราะลูกศิษย์ที่มอบรถให้มีความเชื่อในตัวของแม่ชีว่า หากถวายรถให้จะทำให้กิจการหรือธุรกิจที่ครอบครัวทำอยู่จะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งขึ้น และทุกครั้งเวลาไปไหนมาไหน จะมีลูกศิษย์เป็นคนขับให้ทุกครั้งเมื่อยามเดินทาง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ส่วนภาพที่ออกไปสู่สาธารณะก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาลงโทษกันขนาดนี้

ฐานะทางบ้านของแม่ชีเชอรี่ เท่าที่ทราบเป็นครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยพอสมควร มีกิจการขายเครื่องไฟฟ้า ญาติพี่น้องก็ทำงานมั่นคงทุกคน แต่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมีเงินเป็นร้อยล้านหรือพันล้านตามที่เป็นข่าว” นายวรเดช กล่าวและว่า ตนต้องการจัดพิธีทำบุญ จึงได้นิมนต์พระครูสุธรรมวีราจารย์ (พระอาจารย์สมใจ)เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง พร้อมพระลูกวัดรวม 6 รูป มาทำพิธีทางศาสนา หลังจากนั้นเมื่อเสร็จพิธีเจ้าอาวาสและพระลูกวัด รวมถึงแม่ชีก็เดินทางกลับวันนี้ ส่วนลูกศิษย์ที่มาร่วมทำบุญต่างเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี

ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. พระครูสุธรรมวีราจารย์ จัดแถลงว่า ตามที่มีภาพข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆในฐานะเจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง อาตมามีความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะรายละเอียดของข่าวที่เผยแพร่ออกไปสู่ประชาชน ทำให้วัดเสื่อมเสีย ส่วนประเด็นเกี่ยวกับรถยนต์สปอร์ตปอร์เช่ นั้นขอชี้แจงว่าไม่ใช่รถยนต์ของวัด รวมทั้งไม่ใช่รถยนต์ของแม่ชีเชอรี่ตามที่เป็นข่าวด้วย แต่เป็นรถของลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด ซึ่งเจ้าของรถยนต์มีความเคารพและศรัทธาในตัวแม่ชี จึงนำรถยนต์ให้แม่ชีทดลองขับเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่รถและเจ้าของรถเองเท่านั้น ซึ่งเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวก็ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย

เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมืองระบุต่อว่า ส่วนประเด็นที่สงสัยว่าแม่ชีเชอรี่นำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือของใช้ราคาแพง อาตมาได้รับการรายงานว่า แม่ชีไม่ได้นำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือของใช้ราคาแพงส่วนตัวแต่อย่างใด ซึ่งกลุ่มลูกศิษย์ที่มีความเคารพและศรัทธาเป็นการส่วนตัวนำมาถวายให้กับแม่ชีใช้ ส่วนประเด็นการบริหารเงินของวัดนั้น ทางวัดได้มีคณะกรรมการในการบริหารจัดการเงินของวัด ซึ่งเงินที่ได้รับการบริจาคมานั้น ทางวัดจะนำไปฝากไว้ที่สถาบันการเงินตามบัญชีที่ผู้บริจาคประสงค์ทำบุญ ซึ่งในการเบิกจ่ายเงินนั้นจะต้องมีผู้มีอำนาจลงนาม 2 ใน 3 โดยลงนามร่วมกับเจ้าอาวาสเสมอ จึงจะสามารถเบิกจ่ายเงินจากธนาคารได้ ซึ่งทางวัดก็จะจัดทำงบการเงินส่งให้สำนักพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดชุมพรเพื่อตรวจสอบทุกปีอยู่แล้ว

การที่แม่ชีเชอรรี่ขับรถและใช้กระเป๋าราคาแพงนั้น แม้การกระทำดังกล่าวจะไม่เป็นการกระทำที่ผิดศีลก็ตาม แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับสถานะภาพของนักบวช อาตมาก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ซึ่งแม่ชีเชอรี่ก็รับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก” พระครูสุธรรมวีราจารย์ กล่าว

ด้านนางสาวสุปริญญา ฮุนนางกุล หรือแม่ชีเชอรี่ อายุ 42 ปี แถลงถึงข้อเท็จจริงพร้อมน้ำตานองหน้า โดยมีพระครูสุธรรมวีราจารย์ และศิษยานุศิษย์ ร่วมรับฟัง ว่าตนขอกราบประทานอภัยต่อเจ้าคุณพระสังฆาธิการทุกระดับชั้น พระครูสุธรรมวีราจารย์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทุกจังหวัด ประธานสภาแม่ชีไทย ตลอดจนแม่ชีทุกท่าน ขอยืนยันว่าไม่เคยนำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือสิ่งของราคาแพงมาใช้เป็นการส่วนตัว กระเป๋าดังกล่าวมีลูกศิษย์ที่มีความเคารพและศรัทธานำมาถวายให้ทั้งสิ้น

“ขอกราบประทานอภัยต่อทุกท่าน ที่ฉันก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมขึ้น ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา หรือสถาบันแม่ชีไทยเลยแม้แต่น้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งฉันได้รับการตักเตือนจากเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ให้ทำการแก้ไขแล้ว ซึ่งต่อไปนี้ฉันจะใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติตนให้เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป” แม่ชีเชอรี่กล่าว

ต่อมา แม่ชีเชอรี่ทำพิธีกราบไหว้ขอขมาโดยได้กราบและถวายพานพุ่มเพื่อเป็นการขอขมาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ร่วมในพิธีดังกล่าวด้วยอาการสงบ

ด้านนางสาวนวลวิรัช เครือบัว อายุ 33 ปี เจ้าของรถปอร์เช่ที่แม่ชีเชอรี่นำไปขับจนเกิดเรื่องใหญ่โต เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องรถว่า รถคันนี้เป็นของแฟนตนเองที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ตนได้เดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรม ตนก็ทำตามความศรัทธาของตนที่เชื่อว่านำรถมาให้ทางวัดใช้แล้วจะได้บุญมากขึ้น จึงถือปฏิบัติเหมือนลูกศิษย์คนอื่นๆที่เขาก็เอามาจอดไว้ที่วัด โดยเมื่อเสร็จจากการนำมาให้วัดใช้ประมาณ 1 เดือนก็จะนำกลับไปใช้ทำธุรกิจเหมือนปกติ ไม่มีอะไร

ส่วนนางสาวศิรลักษณ์ เพ็ชรศิริ ชาวจันทบุรี และ นางสาวกุฑีรา สัตตะบงกช อดีตรองนางสาวไทย ได้เป็นตัวแทนลูกศิษย์เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนมว่า ที่มาของกระเป๋ามาจากการที่ลูกศิษย์ได้เดินทางไปต่างประเทศและได้รวบรวมเงินกันซื้อมาฝาก แม่ชีเชอรี่ เพราะทุกคนต่างเห็นว่าขณะเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดได้รับการดูแลและการชี้แนะรวมถึงข้อแนะนำในการวางตัวเพื่ออยู่ระเบียบของวัดที่พึงปฏิบัติดังนั้นเมื่อคณะลูกศิษย์ได้เดินทางไปต่างประเทศ พวกตนไปเที่ยวต่างประเทศเรื่องนึกถึงและซื้อกระเป๋ามาฝากแม่ชี ก็ไม่ทราบว่าและมีเจตนาให้เกิดเองทั้งหมดขึ้น พวกตนคิดแค่อยากซื้อมาฝากท่านก็เท่านั้น

ติดตามอัพเดทข่าวดูทีวี ดูทีวีออนไลน์ ช่อง 9 ช่อง 5 เพิ่มเติมได้ที่ http://tv.sanook.com/

========================================

คสช.เด้ง ‘พงศพัศ‘ พ้นตำแหน่งเลขาฯ ปปส.

ขอขอบคุณภาพจาก INN

ผู้สื่อข่าวช่อง 3, ช่อง 7รายงานว่า (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.45 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกคำสั่งฉบับที่ 84/2557 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้การปฏิบัติของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังนี้

ข้อ 1.ให้กำหนดตำแหน่งผู้ตรวจราชการ เพิ่มขึ้นในสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม จำนวน 1 ตำแหน่ง

ข้อ 2.ให้พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ในสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตามข้อ 1 เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ 3.ให้นายวิทยา สุริยะวงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยสำนักงานกิจการยุติธรรม และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์

ข้อ 4.ให้นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม

ข้อ 5.ให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ข้อ 6.ให้นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ข้อ 7.ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป

ข้อ 8.ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม

ข้อ 9. เมื่อมีการจัดตั้งรัฐมนตรีแล้วให้นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฏหมาย

ข้อ 10. เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ 2 แล้ว ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

========================================

ภาพร้านเหล้าเชียงใหม่จัดกิจกรรมให้คร่อมสาวเปลือยอก

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก สำนักข่าว CNX NEWS

ผู้สื่อข่าวทีวีออนไลน์ช่อง 5รายงานว่า (4 ก.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งได้จัดกิจกรรมซึ่งคาดว่าเป็นการส่งเสริมการขายของทางร้าน โดยมีหญิงสาวเปลือยกายท่อนบน ก่อนที่จะถูกชายที่คาดว่าเป็นลูกค้าของร้านคร่อมร่าง ขณะที่อีกภาพก็เป็นหญิงสาวคนดังกล่าว ยืนถือขวดสุราอยู่บนโต๊ะ ทั้งๆ ที่เปลือยท่อนบน และอีกภาพหญิงเปลือยอกยืนให้ชายหนุ่มเข้ามาลวนลาม โดยทุกภาพมีคนมากมายยืนอยู่รอบๆ แต่ไม่มีลักษณะห้ามปรามแต่อย่างใด

โดยมีข้อความว่า “ถ้าใครไม่ได้มาร้านนี้ ใน ค่ำคืนที่ผ่านมา ถือว่า พลาด !!! “ ซึ่งมีผู้เข้ามาให้ข้อมูลว่าร้านดังกล่าวตั้งอยู่ที่อำเภอหางดง ต่อมาภาพดังกล่าวถูกลบออกไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันชาวเชียงใหม่ที่เห็นภาพดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม

ล่าสุด พ.ต.อ.วุฒิไกร ฦาชา ผกก.สภ.หางดงฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ภาพการแสดงลามาอนาจารที่ร้านดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ถนนคันคลองชลประทาน หมู่ที่ 3 ต.หนองแก้ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยจากการสอบถามทราบว่า นายอาร์ม อายุ 28 ปี เจ้าของร้าน ได้ว่าจ้างพริตตี้มา 3 คน ในราคา 500 บาท เพื่อเต้นโชว์แขกในร้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะหญิงสาวในคลิปทราบชื่อเล่นว่า ตาล เมื่อถูกยุยงในขณะมึนเมา จึงเกิดความคึกคะนอง ได้ถอดเสื้อผ้า และเต้นโชว์ตามที่อยู่ในคลิป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายอาร์ม ในข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะเรียกบุคคลในคลิปมาดำเนินคดีในข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่นต่อไป

========================================

โจรขโมยชุดไทยนางไม้ ชาวบ้านผวาอาถรรพ์ ติดตามชมทีวีออนไลน์ได้ที่นี่

โจรขโมยชุดไทยนางไม้ ชาวบ้านผวาอาถรรพ์

ผู้สื่อทีวีออนไลน์ช่อง5ข่าวรายงานว่า (24 มิ.ย.) นายปรีชา พิพัฒน์ผล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบจุดชุมชนพื้นที่บ้านบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ว่าในพื้นที่มีโจรชุกชุม ล่าสุดได้เข้าไปขโมยชุดไทยของนางไม้ จากต้นยางใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนเส้นเลียบชายหาดบางเสร่ เป็นต้นยางขนาดใหญ่ อายุเก่าแก่ราว 60 ปี สูงประมาณ 30 เมตร ที่โค่นต้นมีชุดไทยโจงกระเบนสีชมพูแขวนอยู่ 3 ชุด แต่เหลือเพียง 1 ชุด ที่เหลือคนร้ายขโมยไป ทิ้งไว้เพียงไม้แขวนเสื้อหุ่น 2 อัน ไว้ให้ดูต่างหน้า

นายปรีชา กล่าวว่า ต้นยางนี้มีอายุ 50-60 ปี คนเฒ่าคนแก่มีความเชื่อว่ามีนางไม้สิงสถิตอยู่ มีชาวบ้านเคยพบเจอหญิงสาวสวมชุดไทยออกมาปรากฎตัวให้เห็น จึงทำให้มีผู้คนโดยเฉพาะนักเล่นหวยมาขอหวยเป็นจำนวนมาก และได้ตั้งศาลเพียงตาขึ้นเพื่อเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ พร้อมนำชุดไทยมาถวาย ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จนมาถึงช่วงฟุตบอลโลก ที่เหล่ามิจฉาชีพออกลักทรัพย์เพื่อหาเงินใช้หนี้พนันบอล จึงส่งผลกระทบมาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนสักการะ ก็ถูกขโมยของด้วยเช่นกันเพื่อที่จะนำไปขายต่อ จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองสอดส่องดูแล และวิงวอนให้ผู้ที่นำไปนำมาคืน เพราะชาวบ้านผวาอาถรรพ์และหวั่นว่าจะมีสิ่งไม่ดีตามมา

ติดตามข่าว ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง3 ช่อง5 ช่อง7 ช่อง9 ได้ที่

http://tv.sanook.com/ 

ทีวีออนไลน์ : ญาตินำศพนักโทษกระโดดศาล ขอความเป็นธรรม

ญาตินำศพนักโทษกระโดดศาล ขอความเป็นธรรม

ช่อง 9 ญาตินำศพนักโทษกระโดดศาล จนเสียชีวิต ขอความเป็นธรรม

ญาติของนักโทษคดียาเสพติดที่กระโดดจากอาคารศาลจังหวัดทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนเสียชีวิต หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี และปรับเงิน 400,000 บาท เมื่อ 2 วันก่อน เข้าขอความเป็นธรรมกับกองทัพภาค 4 ให้รื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังญาติสงสัยว่าเป็นการกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่

ทีวีออนไลน์ ญาติของนายสุรชัย เจษฏารมย์ นักโทษคดียาเสพติดที่กระโดดจากอาคารศาลจังหวัดทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนเสียชีวิตเมื่อ 2 วันก่อน หลังศาลได้ตัดสินจำคุก 4 ปี และปรับเงินอีก 400,000 บาท นำร่างของนายสุรชัย มาร้องขอความเป็นธรรมกับกองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นได้นำศพผู้เสียชีวิตไปยังกองบังคับการตำรวจ จ.นครศรีธรรมราช ขอความเป็นธรรมอีกครั้ง

นางรัตนาพร เจษฎารมย์ พี่สาวของนายสุรชัย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การขอความเป็นธรรมครั้งนี้ เพื่อต้องการให้กองทัพภาค 4 และตำรวจรื้อคดีของน้องชายมาสอบสวนอีกครั้ง หลังน้องชายเล่าให้ฟังว่า ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดตั้งข้อหาโดยที่น้องชายไม่ได้เป็นผู้กระทำ และมีใช้พยานเท็จ จนนายสุรชัยต้องถูกจำคุก และฆ่าตัวตายในที่สุด

ติดตามข่าว ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง3 ช่อง5 ช่อง7 ช่อง9 ได้ที่

http://tv.sanook.com/ 

โชคดีสุด ๆ ชาววังทอง จ.พิษณุโลก ถูกรางวัลที่ 1 กว่า 4 ราย ติดตามชม ดูทีวีออนไลน์ ได้เลย

ชาววังทอง จ.พิษณุโลก ถูกรางวัลที่ 1 กว่า 4 ราย

ทีวีออนไลน์เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธร อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนางจันทรา จันทร์สามเรือน อายุ 52 ปี และนางกาญจนา บุญเหม อายุ 33 ปี สองพี่น้องชาวบ้าน บ้านวังครุฑ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ว่าถูกรางวัลสลากการกุศล ประจำงวดที่ 16 มิ.ย. 57 คนละ 1 ใบ รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท

สองพี่น้อง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนที่จะประกาศรางวัล มีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์มาขายสลากให้ที่หน้าบ้านพัก ประกอบกับตั้งใจซื้อเลขที่มีผู้โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊คว่า “ในหลวงจะทรงมีพระชนมายุถึง 120 พรรษา” แต่คนขายไม่มีให้ มีเพียงเลขท้าย 920 เหลือเพียง 4 ใบ จึงซื้อไว้คนละใบ ในราคาใบละ 100 บาท และเมื่อกองสลากประกาศรางวัลที่ 1 ก็ตรงกับที่ซื้อไว้ สำหรับเงินที่ได้จะนำไปทำบุญและปลดเปลื้องหนี้สิน

ทีวีออนไลน์นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านบ้านวังทองที่โชคดีอีก คือ นางสุนทรี จันทร์น้อย อายุ 64 เป็นแม่ค้าขายกระทิ ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เงินรางวัล 4 ล้านบาท นางสุนทรี กล่าวว่าก่อนซื้อสลาก ฝันว่าปู่ที่บวชเป็นพระ มาเดินบิณฑบาตและได้เดินตาม จากนั้นมีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวมาบอกว่า ชีวิตลำบากมามากแล้วต่อไปนี้จะสบาย เมื่อถึงตอนเช้ามีคนมาขายสลากถึงหน้าบ้าน บอกว่าเหลือแค่ 4 ใบหมายเลขเดียวกันหมด ใบละ 100 บาท จึงซื้อไว้ 1 ใบ จากนั้นเมื่อประกาศรางวัลที่ 1 ก็พบว่าตรงกับสลากที่ซื้อมา ทั้งนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะนำเงินที่ได้ไปทำบุญ และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปรักษาลูกที่ป่วยเป็นโรคไตรวมทั้งเป็นทุนการศึกษา ส่วนผู้ถูกรางวัลอีกคนหนึ่ง เป็นชาวบ้านในบ้านหัวกก ถูกฉลากชุดเดียวกัน แต่ไม่ได้มาแจ้งความเป็นหลักฐาน

ติดตามข่าว ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง3 ช่อง5 ช่อง7 ช่อง9 ได้ที่

http://tv.sanook.com/ 

ดูทีวี : หึงโหด! พนักงานทีโอทีคว้าปืนยิงเมียดับก่อนยิงตัวตายตาม

หึงโหด! พนักงานทีโอทีคว้าปืนยิงเมียดับก่อนยิงตัวตายตาม

ทีวีออนไลน์ : เกิดเหตุสลดใจที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อสามีวัยเกือบ 50 ปี ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม เพราะความหึงหวง เนื่องจากไม่พอใจที่ได้ยินภรรยาพูดคุยโทรศัพท์กับชายอื่น

เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับตำรวจภูธรบางบ่อ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมกันตรวจสภาพศพ นายสุทธิศิลป์ จันแดง อายุ 48 ปี และ นางเนาวรัตน์ จันแดง อายุ 31 ปี 2 สามีภรรยา หลังทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 57 หมู่ 8 ถนนเลียบคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ โดยเจ้าหน้าที่พบ อาวุธปืนแบบแมกกาซีน ขนาด 9 มม. พร้อมปลอกและกระสุนที่ถูกยิงแล้ว จึงรวบรวมไว้ พร้อมตรวจลายมือแฝงจากอาวุธ เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า สามีภรรยาคู่นี้อยู่กินกันมาราว 20 ปี มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน โดยฝ่ายสามีเป็นพนักงานบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ประจำสาขาบางนา ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน โดยทั้ง 2 มักมีปากเสียงกันเป็นประจำ เนื่องจากภรรยาเป็นคนหน้าตาดี และมีอายุน้อยกว่าสามีถึง 17 ปี

ก่อนเกิดเหตุ ทั้ง 2 มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เพราะฝ่ายสามีไม่พอใจที่ภรรยาพูดคุยโทรศัพท์กับชายอื่น จากนั้นฝ่ายสามีก็วิ่งไปหยิบปืนขึ้นมาจ่อยิงภรรยา 1 นัด ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกัน จ่อขมับยิงตัวเองตายตาม ลูก 2 คน ที่นอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงปืน จึงออกมาดูก็พบว่าพ่อกับแม่ถูกยิง จึงวิ่งออกไปตามเพื่อนบ้านให้มาช่วยแต่ก็ไม่ทัน เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทั้ง 2 จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากความหึงหวงของผู้เป็นสามีที่มีภรรยาหน้าตาดี รวมทั้งมีอายุห่างกันถึง 17 ปี จึงมักมีชายอื่นมาติดพันให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ตำรวจมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลแพทย์ตำรวจ เพื่อชันสูติโดยละเอียดอีกครั้ง

ติดตามข่าว ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง3 ช่อง5 ช่อง7 ช่อง9 ได้ที่

http://tv.sanook.com/ 

ดูทีวีออนไลน์ : ยู่ยี่ อลิสา นอนคุก ลุ้นศาลให้ประกันตัวคดีนำเข้าโคเคน

ยู่ยี่ อลิสา นอนคุก ลุ้นศาลให้ประกันตัวคดีนำเข้าโคเคน

ดูทีวี : (13 มิ.ย.) ภายหลังจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก นางชัชชญา เกวสต้า รามอส หรือ ยู่ยี่ อดีตนางแบบชื่อดัง ซึ่งเป็นจำเลย ในความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินดอนเมืองตรวจค้น พบโคเคน จำนวน 251 มิลลิกรัม ในกระเป๋าเดินทางของ”ยู่ยี่”ขณะกลับเข้าประเทศ

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่ “ยู่ยี่” อ้างว่าได้รับหลอดช็อคโกแลตมาจากผู้โดยสารอื่นบนเครื่องบินขณะกลับจากประเทศเวียดนาม โดยไม่รู้ว่าข้างในมีโคเคนซุกซ่อนอยู่นั้น เห็นว่าเป็นไปได้ยาก ที่จะมีคนไม่รู้จักมามอบสิ่งของให้ พยานหลักฐานจำเลยจึงไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงมีคำพิพากษาว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.ยาเสพติด ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี ปรับ 2 ล้านบาท แต่ให้การเป็นประโยชน์มีเหตุบรรเทาโทษ 1ใน4 เหลือ จำคุก 15 ปี ปรับ 1 ล้าน 5 แสนบาท และ ให้บวกโทษในคดีลักลอบมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาจำคุก 3 เดือนก่อนหน้านี้ รวมโทษจำคุก 15 ปี 3 เดือน

ส่วนทางด้าน ทนายความของยู่ยี่ ได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสดรวม 2,000,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาได้ส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาจะอนุญาตต่อไป ทำให้ล่าสุดขณะนี้ “ยู่ยี่” ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน เพื่อรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ อย่างช้าราวๆ ต้นสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าว ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ช่อง3 ช่อง5 ช่อง7 ช่อง9 ได้ที่

http://tv.sanook.com/